
The Rock (เดอะร็อก) นักมวยปล้ำผู้มีหรือฉายาคือหินเดินได้
สำหรับดารานักแสดงร่างใหญ่และน่าเกรงขามอย่าง ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) หรือ The Rock (เดอะร็อก) ที่เราได้เห็นเขาปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เสมอ บทความนี้จึจะพามารู้จักกับนักแสดงสุดล่ำคนนี้ว่า กว่าจะมาเป็นนักแสดงแถวหน้าของโลกนั้นจุดเริ่มต้นของเขาไม่ง่ายเลย แวดวงบันเทิง
- The Rock (เดอะร็อก) คือ ทายาทนักมวยปล้ำ

เขาเกิดปี ศ.คใ 1972 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เขาเป็นลูกชายของร็อคกี้ จอห์นสัน (Rocky Johnson) นักมวยปล้ำแอฟริกัน อเมริกันคนแรกที่คว้าแชมป์แบบแท็กทีม และยังเป็นหลานชายของปีเตอร์ มายเวีย (Peter Maivia) นักมวยปล้ำเชื้อสายซามัวอีกด้วย
- The Rock (เดอะร็อก) Dwayne Johnson ในฐานะนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล

เมื่อเขาอายุได้ 16 ปี ดเวย์น จอห์นสัน มีโอกาสได้เริ่มเล่นกีฬาอเมริกันฟุตบอลและได้รับโควตาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังมากมาย เพราะใคร ๆ ก็อยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม สุดท้ายเขาตัดสินใจเข้าร่วมทีม Miani Hurricanes ของมหาวิทยาลัยไมอามี โดยลงเล่นในตำแหน่ง Defensive Lineman และได้ทำสถิติแท็กเกิลสำเร็จ 77 ครั้งในการลงสนาม 39 เกม สามารถพาทีมคว้าแชมประดับประเทศในปี 1991 ได้สำเร็จ
- The Rock (เดอะร็อก) ผันตัวเข้าสู่วงการมวยปล้ำ

ดเวย์น จอห์นสัน ขอร้องให้พ่อของเขา ร็อกกี้ จอห์นสัน ถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดให้และช่วยให้เขาเข้าสู่วงการมวยปล้ำให้ได้ ในที่สุดดเวย์น จอห์นสัน ก็ได้ขึ้นสั่งเวียนอาชีพครั้งแรกในศึก WWE ปี 1996 กับ Brooklyn Brawler ด้วยฉายา “ร็อกกี้ มายเวีย” (Rocky Maivia) จากขึ้นสั่งเวียนไปได้ไม่นาน ดเวย์น จอห์นสันก็สามารถคว้าแชมป์ USWA แบบแท็กทีมร่วมกับ BartSawyer มาได้สำเร็จ ทำให้ WWE จัดการเซ็นสัญญากับดเวย์น จอห์นสันพร้อมกับฉายาใหม่อย่าง FlexKavana หนึ่งปีต่อมา ดเวย์น จอห์นสันนก็เข้ามาเป็นผู้นำของทีม The Nation of Domination พร้อมกับเปลี่ยนฉายาของตัวเองอีกครั้ง เดอะร็อค (The Rock)
- The Rock (เดอะร็อก) ได้รับโอกาสเข้าสู่อาชีพนักแสดง

ในขณะ The Rock (เดอะร็อก) กำลังรุ่งโรจน์กับมวยปล้ำ เขาก็ได้มีโอกาสเข้าสู่วงการ เขาได้รับเลือกให้มารับบท Scorpion King ในภาพยนตร์เรื่อง The Mummy Returns หลังจากนั้น The Rock (เดอะร็อก) ได้กลับมารับบทนี้อีกครั้งในเรื่อง The Scorpion King ซึ่งเป็นภาคแยกของภาพยนตร์เรื่องก่อนตามคำเรียกร้องของแฟน ๆ ซึ่งเขาได้รับค่าตัวไปเต็ม ๆ ถึง 5.5 ล้านเหรียญ หลังจากนั้นเขาก็รับงานแสดงสลับกับมวยปล้ำมาตลอด
- The Rock (เดอะร็อก) กลายเป็นนักแสดงพันล้าน

สำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือการรับบท ลุค ฮ็อบส์ ใน Fast Five (2011) กวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 626.1 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้ค่าตัว 32.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ความสำเร็จนี้ยังต่อยอดไปถึงแฟรนไชส์ภาพยนตร์เร็วแรงทะลุนรกในภาคต่อ ๆ ไปอีกด้วย The Rock (เดอะร็อก) กลายมาเป็นนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวู้ดอย่างเต็มตัว ในปี 2016 เขาเป็นนักแสดงนำชายที่มีรายได้มากที่สุดในโลกกับจำนวนเงิน 64.5 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว ๆ 2.1 พันล้านบาท จากการแสดงเรื่อง San Andreas, Baywatch, Central Intelligence และ The Fate of the Furious
ความสำเร็จของ The Rock (เดอะร็อก) นั้นไม่ได้เกี่ยวกับความยิ่งใหญ่เสมอไป แต่มันเกี่ยวกับความสม่ำเสมอ ความขยันหมั่นเพียรนำมาซึ่งความสำเร็จ แล้วความยิ่งใหญ่จะตามมาเอง

ต้องขอ ขอบคุณผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ Lottosod888