Keyword หลัก บรูซ วิลลิส
Keyword หลัก โรคอะเฟเซีย

เหตุผลที่ “บรูซ วิลลิส” อำลาวงการ
วอลเตอร์ บรูซ วิลลิส (Walter Bruce Willis) ดาราฮอลลีวูดชื่อดังที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง Die Hard เตรียมยุติอาชีพนักแสดงแล้ว จากสาเหตุมาจากกำลังป่วยโรคอะเฟเซีย (Aphasia)
จากการแถลงการณ์ร่วมถูกโพสต์ในบัญชีโซเชียลมีเดีย เอมมา เฮมมิง วิลลิส, รูเมอร์, ทาลูลาห์, มาเบิล และ เอเวลิน วิลสิส ของครอบครัววิลลิสโดยอธิบายว่าบรูซ วิลลิสนักแสดงรุ่นใหญ่ของฮอลลีวู้ด วัย 67 ปี กำลังประสบปัญหาด้านสุขภาพบางอย่างและเพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่า มีอาการของโรคอะเฟเซีย ซึ่งจะมีผลต่อกลไกทางการรับรู้ ด้วยผลของโรคและด้วยการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ซึ่งทำให้เขาต้องยุติบทบาทการเป็นนักแสดงจากอาชีพที่มีความหมายต่อเขามาก

โดยมีใจความเขียนสรุปได้ว่า “ถึงแฟน ๆ ที่สนับสนุนและรักบรูซ วิลลิสทุกคน พวกเราในฐานะครอบครัวของบรูซ ต้องแจ้งข่าวให้ทุกคนได้ทราบว่า บรูซ วิลลิสกำลังเผชิญหน้ากับอยู่กับปัญหาทางด้านสุขภาพ โดยเพิ่งได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีความบกพร่องทางสมอง(โรคอะเฟเซีย) ที่ส่งผลต่อการรับรู้และความสามารถในการสื่อสารของบรูซ ด้วยเหตุนี้และด้วยการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ถึงแก่เวลาที่บรูซ วิลลิสจะก้าวออกจากอาชีพนักแสดงที่มีความหมายต่อเขาอย่างมาก นี่เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับครอบครัวของเราเป็นอย่างมาก เรารู้สึกซาบซึ้งกับความรักและกำลังใจที่ทุกคนส่งมาให้ รวมทั้งแรงสนับสนุนของพวกคุณที่ดีเสมอมา เรากำลังจะก้าวผ่านสิ่งนี้ไปด้วยกันทั้งครอบครัว และเราต้องการให้แฟน ๆ ได้รับรู้และเป็นส่วนหนึ่งกับเหตุการณ์นี้ เพราะพวกคุณมีความหมายสำหรับบรูซ วิลลิส และแฟน ๆ ก็มีความหมายสำหรับสำหรับบรูซ วิลลิสเช่นเดียวกัน อย่างที่บรูซ วิลลิสเคยพูดเสมอว่า ‘จงใช้ชีวิตให้คุ้มซะ’ และตอนนี้เรากำลังวางแผนจะร่วมกันทำเช่นนั้นให้กับเขาในอนาคต”

โรคอะเฟเซีย (Aphasia) คืออะไร
โรคอะเฟเซีย (Aphasia) หรือภาวะบกพร่องทางการสื่อความเป็นความผิดปกติทางการสื่อสาร มักเป็นผลมาจากสมองได้รับความเสียหายจากภาวะเส้นเลือดในสมองแตกหรือการได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติในด้านทักษะของการสื่อสารและการใช้ภาษา ไม่สามารถโต้ตอบหรือทำความเข้าใจได้ อาจมีปัญหาทางด้านการอ่านและการเขียนร่วมด้วย โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่
1. บกพร่องด้านความเข้าใจ
2. บกพร่องด้านการพูด
3. บกพร่องในการพูดทวนซ้ำ
4. บกพร่องทั้งด้านการพูดและการทำความเข้าใจ

ทั้งหมดนี้สาเหตุและอาการที่แตกต่างกันออกไป สำหรับการรักษาผู้ป่วยจะได้รับการแก้ไขภาวะนี้ด้วยการบำบัดฟื้นฟู การใช้ภาษาและการสื่อสารร่วมด้วย โดยทั่วไปอาการของผู้ป่วยจะค่อย ๆ ได้ผลดีขึ้นหลังทำการบำบัดติดต่อกัน แต่บางรายอาจใช้เวลานานกว่าปกติในการบำบัด โดยจากการศึกษาพบว่าการบำบัดจะได้ผลที่ดีที่สุด เมื่อเริ่มทันทีหลังจากที่ร่างกายและสมองเริ่มฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บจนอยู่ในอาการที่ปลอดภัย ติดตามข่าวใน แวดวงบันเทิง